ประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน
การบริหารจัดการนวัตกรรม
ระดับผลกระทบ
Impact Materiality : สูงมาก
Financial Materiality : สูงมาก
Double Materiality : สูงมาก
ผู้มีส่วนได้เสีย
ผู้ถือหุ้น
นักลงทุน
ลูกค้า
หุ้นส่วนทางธุรกิจ

เป้าหมาย (Target)

  • เพิ่มสัดส่วน Innovation Contribution* ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของ EBITDA โดยรวมของบริษัทฯ ภายในปี 2573
  • เพิ่มสัดส่วนการลงทุนของ Corporate Venture Capital (CVC) เป็น 70 ล้านเหรียญสหรัฐ **ภายในปี 2568 ใน 4 กลุ่มเทคโนโลยี 1) วัสดุขั้นสูง (Advanced Material) 2) พลังงานหมุนเวียนและเศรษฐกิจหมุนเวียน (Renwable / Circularity) 3) การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero) และ 4) ดิจิทัลทางอุตสาหกรรม (Industrial Digital)

หมายเหตุ:

*ดัชนีชี้วัดความสำเร็จของผู้บริหารองค์กร (Executive KPI and Compensation Metric)

**Innovation Contribution จากผลิตภัณฑ์นวัตกรรมและกระบวนการนวัตกรรมที่ออกสู่ตลาดย้อนหลัง 10 ปี เทียบกับ EBITDA ของบริษัทฯ

ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ (Challenges and Opportunities)

การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ และการมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions Target) ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต ลดการใช้ทรัพยากร พร้อมลดการเกิดและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

บริษัทฯ ยังศึกษาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูงด้านเทคโนโลยีสะอาดในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Decarbonization) รวมถึงการดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Capture Storage)นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจำเป็นที่จะต้องมีการปรับโครงสร้างธุรกิจ (Portfolio) สู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำในระยะยาว พร้อมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้สร้างเครือข่ายพันธมิตรด้านนวัตกรรม เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงและใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก (Megatrend) และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค

แนวทางการบริหารจัดการ
(Management Approach) GRI 3-3 (2021)

กลยุทธ์การบริหารจัดการด้านนวัตกรรม (Innovation Management Strategy)

นวัตกรรมมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้บริษัทฯ บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ผ่านการสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาที่เสริมความสามารถในการแข่งขันและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งกลยุทธ์การบริหารจัดการด้านนวัตกรรม และกรอบการดำเนินงาน แบ่งเป็น 5 แนวทางหลัก ดังนี้

เป้าหมายที่คาดหวัง (Expected Goals)

  • เป็นผู้นำด้านการดำเนินงานในกระบวนการผลิตในระดับ Top Quartile
  • เพิ่มศักยภาพและความโดดเด่นในการแข่งขันในตลาดให้มีศักยภาพเชิงพาณิชย์สูงขึ้น
  • โอกาสเติบโตทางธุรกิจรูปแบบใหม่อย่างยั่งยืน

แนวทาง (Approach)

การพัฒนานวัตกรรมกระบวนการผลิต (Process Innovation)
การพัฒนานวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ (Product Innovation)
การส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจใหม่ (Innovation Growth Platform)
การลงทุนในรูปแบบ Corporate Venture Capital (Corporate Venture Capital (CVC))
การเสริมสร้างความเข้มแข็งของหน่วยสนับสนุนและกำกับดูแล (Enabler)

รายละเอียดการดำเนินงาน (Action)

  • รักษาความสามารถในการแข่งขันและลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่าน 4 กลุ่มเทคโนโลยีประกอบด้วย
    • การพัฒนาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์พลอยได้ (By-product Upgrading)
    • ตัวเร่งปฏิกิริยาและตัวดูดซับ (Catalyst/ Absorbent)
    • เทคโนโลยีเมมเบรน (Membrane)
    • การสร้างแบบจำลองกระบวนการผลิตขั้นสูง (Advanced Process Modeling) เพื่อคาดการณ์และเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์
  • ขยาย Product Portfolio โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงและยั่งยืนที่ตอบสนองความต้องการของตลาดตามหลัก Market-Focused Business Transformation (MFBT) ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามเทคโนโลยีการผลิตของสินทรัพย์ที่มีอยู่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณสมบัติเฉพาะ ของผลิตภัณฑ์ที่สอดรับกับความต้องการของตลาดและการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่สร้างความได้เปรียบด้านการตลาดรองรับการเติบโตและการขยายตลาดอย่างยั่งยืน
  • พัฒนาและบ่มเพาะในกลุ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ
    • วัสดุวิศวกรรมขั้นสูง (Advanced Materials) อาทิ วัสดุคอมโพสิต Epoxy Resin
    • การพัฒนาทรัพยากรหมุนเวียน และระบบหมุนเวียนของผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจร (Renewable & Circularity) เช่น การขยายฐานไบโอเทคโนโลยีและเทคโนโลยีสีเขียวและการสร้างรีไซเคิลเทคโนโลยีพอร์ตโฟลิโอ
    • Net Zero อาทิ การพัฒนาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอน และนำไปใช้ประโยชน์
  • ขยายช่องทางในการเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อสร้างความร่วมมือและเครือข่ายพันธมิตรในกลุ่มเทคโนโลยีเป้าหมายที่สอดรับกับทิศทางเชิงกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจและบริษัทในเครือ เช่น allnex, NatureWorks, EMERY
  • การสร้าง Portfolio การพัฒนาอย่างยั่งยืนด้านนวัตกรรม
  • เสริมสร้างวัฒนธรรมด้านนวัตกรรมภายในองค์กร
  • พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัย
  • นำเทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินโครงการนวัตกรรมและการบริหารจัดการ นวัตกรรม

ทั้งนี้ยังได้กำหนดกรอบการดำเนินงานโดยแบ่งเป็น 3 ขอบเขตหลัก (3 Horizons) ประกอบด้วย Horizon 1: Strengthening the core, Horizon 2: Striving the growth และ Horizon 3: Sustaining the future โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ผ่านการจัดทำ Technology Roadmap

Technology Roadmap

สามารถดูรายละเอียดโครงการนวัตกรรมโดดเด่นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพิ่มเติมได้ที่ GC Integrated Sustainability Report 2567 อาทิ

  • จีซี เวนเจอร์ส (GC Ventures) เพื่อแสวงหาเทคโนโลยีและโอกาสในการลงทุน ด้วยการลงทุนในรูปแบบ CVC ทั้งทางตรงและทางอ้อมในสตาร์ทอัพ (Startups) และกองทุนเทคโนโลยี (Technology Funds)
  • โครงการความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยีการใช้ประโยชน์จากคาร์บอนไดออกไซด์ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีเดลฟท์ (Collaboration on CO2 Utilization Technologies with Delft University of Technology) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีหลักในการดักจับและแปลงคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ให้เป็นเคมีภัณฑ์
  • การพัฒนาเรซินโพลีเอทิลีนใหม่สำหรับฟิล์มยืดอุตสาหกรรม (Polyethylene New Resin for Industrial Stretch Film) โดยพัฒนาเรซินโพลีเอทิลีนใหม่สำหรับฟิล์มยืดอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มโอกาสในการแข่งขันด้านอุตสาหกรรมฟิล์มพลาสติกโพลีเอทิลีน
  • โครงการพัฒนา HDPE สำหรับเส้นด้ายโมโนฟิลาเมนต์ความแข็งแรงปานกลาง ซึ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ HDPE สำหรับเส้นด้ายโมโนฟิลาเมนต์ความแข็งแรงปานกลางที่่มีประสิทธิภาพสูงเหมาะสำหรับการเพาะเลี้ยงสัตวน้ำและการใช้งานอื่นๆ
  • โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ PCR PET & Virgin PET Dry-blending ร่วมมือกับบริษัทในเครือเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์พลาสติกรีไซเคิลจากขวดพลาสติก PET (Post Consumer Recycled Resin PET: PCR PET)
  • โครงการเทคโนโลยีการแยกด้วยเมมเบรนขั้นสูงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การแยกในกระบวนการผลิต (Advance Membrane Separation Technology to Streamline Separation Efficiency in Production Process) วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเมมเบรน (Membrane) เพื่อใช้ในขั้นตอนการแยกสารในกระบวนการกลั่น ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานมากกว่าเมื่อเทียบกับการกลั่นแบบดั้งเดิม
  • โครงการยกระดับผลิตภัณฑ์ LCB OLE สู่ Raw Pygas/Pygas พัฒนากระบวนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีการแยกสารขั้นสูงในการกำจัดสารปนเปื้อน เพื่อยกระดับและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของผลิตภัณฑ์
  • แบบจำลองทางคณิตศาสตร์เพื่อหาสภาวะที่เหมาะสมของหน่วยแตกโมเลกุลด้วยความร้อน ระยะที่ 3 (Visbreaker Unit Optimization Model: Phase 3) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการแตกโมเลกลุด้วยความร้อนและหาสภาวะที่เหมาะสมในช่วงที่มีการเปลี่ยนน้ำมันดิบ
  • โครงการแตกตัวของสารประกอบใน BPA Tar เพื่อให้ได้ฟีนอลกลับเข้าสู่กระบวนการผลิต ประยุกต์ใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาในการปรับปรุงสภาวะการแตกตัวของ BPA Tar ซึ่งเป็นของเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต ลดการใช้วัตถุดิบและลดการเกิด ของเสียในกระบวนการผลิต
GC ISR 2567